ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
     ต่อมาภายหลังจึงเกิดการจาริกไปยังสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปาฏิหาริย์เพิ่มขึ้นอีก๔แห่งนั่นคือ๑สถานที่เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์๒สถานที่แสดงยมกปาฏิหาริย์๓สถานที่ทรมานช้างนาฬคีรี๔สถานที่ทรมานพญาวานร สังเวชนียสถาน สังเวชนียสถาน สังเวชนียสถาน สังเวชนียสถาน เพิ่มขึ้นอีก๔แห่ง

     ตรงข้ามกับอิฏฐารมณ์ค่ะ พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อนิฏฐารมณ์ อนิฏฐารมณ์

     ตรัสรู้ได้ด้วยการฟังคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธะจนรู้ตามและสอนให้ผู้อื่นรู้ตามได้ค่ะ อนุพุทธะ อนุพุทธะ

     ตามกฎมหาเถรสมาคมนั้นได้กำหนดให้เขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลหนึ่งให้มีพระอุปัชฌาย์เพียงหนึ่งรูปเว้นแต่มีกรณีพิเศษค่ะ อุปัชฌาย์ อุปัชฌาย์ อุปัชฌาย์ อุปัชฌาย์ ตำบลหนึ่งให้มีหนึ่งรูป

     ตามหลักพุทธศาสนาแล้วทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตท้ังหลายน้ันไม่ได้เกิดมาเพียงครั้งเดียวหนเดียวพอตายไปแล้วก็ถือว่าจบบริบูรณ์หรือมีต่ออีกไม่กี่ภาคเหมือนอย่างภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ได้ดูมาหรอกนะคะแต่ทุกชีวิตที่ยังมีกิเลสอยู่ยังไม่บรรลุถึงความเป็นอรหันต์และไม่เข้าถึงความเป็นนิพพานล้วนต้องกลับมาเกิดใหม่เกิดแล้วตายตายแล้วเกิดวนเวียนเวียนวนสลับไปมาอย่างนี้อีกนานแสนนานนับภพนับชาติไม่ถ้วนไม่มีวันเอวังอวสานได้ง่ายๆหรอกค่ะเมื่อรู้อย่างนี้แล้วคนที่ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ยาวไกลก็คงจะไม่มองสั้นๆคิดกอบโกยหาแต่ทรัพย์สินเงินทองเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้นเพราะไม่ว่าจะได้มากมายแค่ไหนก็มีวันหมดได้เหมือนกันและเมื่อสิ้นลมหายใจก็ต้องบ๊ายบายแบมือลากําติดตัวไปไม่ได้แม้แต่สตางค์เดียวพอเกิดใหม่ก็ต้องเริ่มนับหน่ึงอีกหรือบางคนก็อาจเริ่มจากติดลบได้ก็มีค่ะเพราะหลังจากส้ินลมแล้วสิ่งที่ทุกชีวิตจะนําติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปได้ก็มีแต่บุญกับบาปเท่าน้ันเองฉะน้ันในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่จึงควรรีบพัฒนาตัวเองให้พุ่งทะลุแดนบวกของตลาดบุญด้วยการเป็นนักลงทุนข้ามภพชาติกันไม่ดีกว่าหรือคะใช่มะๆใช่ม้า~ ได้เวลาชําระจิตชํารุด,ปันยา,มิถุนายน๒๕๕๒ นักลงทุนข้ามภพชาติ บุญบาป ลงทุนข้ามชาติ ข้ามชาติ

     ตอนนี้อยากทำบุญก็เป็นจังหวะดีที่จะทำแล้วแหละค่ะ ตามติดชีวิตรีลัคคุมะคนโดอากิแต่งอลีนเฉลิมชัยกิจแปลจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไดฟุกุ ทำบุญ อยากทำบุญ การทำบุญ ทำเลย

     ตัวการ์ตูนหมีของคนญี่ปุ่นเค้าหน่ะค่ะลักษณะนิสัยออกแนวขี้เกียจๆชิวๆเรื่อยๆแต่แอบสงสัยอยู่อย่างคือเค้าอาจจะนับถือพุทธนะคะ ตามติดชีวิตรีลัคคุมะคนโดอากิแต่งอลีนเฉลิมชัยกิจแปลจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไดฟุกุ รีลัคคุมะ รีลัคคุมะ รีลัคคุมะ นับถือพุทธศาสนา

     ติดการพนันมีโทษ๖อย่างคือ๑ผู้ชนะย่อมก่อเวร๒ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป๓ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน๔ถ้อยคำของคนเล่นการพนันซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น๕ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท๖ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วยเพราะเห็นว่าชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยาได้อบายมุข อบายมุข๖ การพนัน การพนัน ก่อเวร

     ติดสุราและของมึนเมามีโทษ๖อย่างคือ๑ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง๒ก่อการทะเลาะวิวาท๓เป็นบ่อเกิดแห่งโรค๔เป็นเหตุเสียชื่อเสียง๕เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย๖ทอนกำลังปัญญาอบายมุข อบายมุข๖ เหล้า เหล้า เสื่อมเสีย

     ตทังคนิโรธดับด้วยองค์นั้นๆคือดับกิเลสด้วยธรรมที่เป็นคู่ปรับหรือธรรมที่ตรงข้ามเช่นดับสักกายทิฏฐิด้วยความรู้ที่กำหนดแยกรูปนามออกได้เป็นการดับชั่วคราวในกรณีนั้นๆตทังคนิโรธ

     ตัวอย่างก็คือน้องสาวของพระอนุรุทธค่ะน้องสาวของท่านเป็นโรคเรื้อนเวลาพระพุทธเจ้าไปเทศน์เธอก็ไม่ออกมาเพราะอายวันหนึ่งพระอนุรุทธจึงถามว่าพระพุทธเจ้ามาทำไมจึงไม่ฟังเทศน์เธอตอบว่าเธอเป็นสาวเป็นโรคเรื้อนก็อายพระอนุรุทธก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นหาเวลาทำบุญให้ทำแบบนี้เวลาที่พระไปบิณฑบาตก็จัดสถานที่กวาดสถานที่จัดน้ำใช้น้ำฉันให้พระเธอก็ทำแบบนั้นทุกวันทำไปทำไปไม่ช้าโรคเรื้อนมันก็หายไปทีละหน่อยทีละหน่อยเพราะทำด้วยจิตใจเคารพต่อมาก็หายสามารถมาไหว้พระได้มาฟังเทศน์ได้ค่ะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)วัดท่าซุงอานิสงส์ทำความสะอาดวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาทำความสะอาดวัดกันเต๊อะ ทำความสะอาดวัด หวงวิชชา โรคเรื้อน

     ต้องเป็นคนอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณแน่แน่เลยชิมะชิมะ อาจารย์อัจฉราวดีวงศ์สกล ทำไมมีรูปร่างอัปลักษณ์น่ารังเกียจ อัปลักษณ์น่ารังเกียจ คนอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

     ตอบผิดตอบใหม่ได้น้า~ไม่ต้องดื่มเหล้าก็เมาเลยดีไหม สถานะสงสัย

     ต้องใจเย็นเย็นอดทนรอด้วยการทำนิ่งนิ่งเฉยเฉยเดี๋ยความสุขก็จะมาเองค่ะ ตะวันธรรม การทำสมาธิ การทำสมาธิ ทำนิ่ง ความสุขมาเอง คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ

     ตามโค้ชเอกที่ได้แนะนำน้องน้องทีมหมูป่านะคะเคยบวชมาแล้วเคยจำศีลในถ้ำเลยสอนให้เด็กเด็กนั่งสมาธินิ่งนิ่งเพื่อประหยัดพลังงานจะได้ไม่หิวเพราะการนั่งสมาธิทำให้ไม่หิวได้และยังบอกให้พยายามนอนนิ่งนิ่งกินน้ำจากถ้ำที่หยดลงมาเท่านั้นเพื่อรอการช่วยเหลือค่ะพาหมูป่ากลับบ้านหมูป่าน้องทีมหมูป่านอนนิ่ง

     ตรงที่ว่าของๆของๆของๆใครทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงเลยซักคนความสงบ ความสุข ความสุข ไม่มีของคน

     ตามความในพระราชประวัติแสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเริ่มปรับปรุงแก้ไขการประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยในส่วนพระองค์เพื่อให้ถูกต้องตามที่ทรงได้ศึกษาพิจารณามาตั้งแต่ผนวชได้๒พรรษาขณะที่ยังประทับอยู่วัดมหาธาตุและเริ่มมีสหธรรมิกอื่นๆนิยมปฏิบัติตามพระองค์ขึ้นบ้างแล้วแต่ยังคงไม่มากนัก ครั้นปีพศ๒๓๗๒อันเป็นปีที่ผนวชได้๖พรรษาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งเป็นพระราชาคณะมาถึงระยะนี้คงมีภิกษุสามเณรที่นิยมการปฏิบัติตามอย่างพระองค์และมาถวายตัวเป็นศิษย์มากขึ้นจึงได้เสด็จจากวัดมหาธาตุกลับไปวัดสมอรายอันเป็นวัดนอกกำแพงพระนครและเป็นวัดฝ่ายอรัญญวาสีหรือวัดป่าที่มีชื่ออยู่ในขณะนั้นทั้งนี้ก็คงเพื่อความสะดวกพระทัยในอันเป็นที่พระองค์พร้อมทั้งคณะศิษย์จะได้ประพฤติปฏิบัติและบำเพ็ญกิจวัตรต่างๆทางพระธรรมวินัยที่เห็นว่าถูกว่าควรได้ตามประสงค์แต่ศิษย์บางส่วนก็ยังคงอยู่ที่วัดมหาธาตุต่อมา แม้เมื่อเสด็จมาประทับที่วัดสมอรายแล้วการปรับปรุงแก้ไขวัตรปฏิบัติต่างๆในคณะของพระองค์ก็คงยังดำเนินไปได้ไม่ค่อยสะดวกนักเพราะพระองค์มิได้ทรงเป็นอธิบดีสงฆ์แห่งสำนักนั้นฉะนั้นในขณะเมื่อประทับอยู่ที่วัดมหาธาตุก็ดีที่วัดสมอรายก็ดีทำเนียมปฏิบัติต่างๆที่พระองค์ได้ทรงพระราชดำริปรับปรุงแก้ไขขึ้นใหม่คงยังไม่ได้มีกำหนดเป็นรูปแบบที่ชัดเจนบริบูรณ์ ต่อเมื่อเสด็จมาครองวัดบวรนิเวศวิหารเมื่อพศ๒๓๗๙แล้วจึงปรากฏหลักฐานว่าทรงตั้งทำเนียมปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์ธรรมยุติขึ้นอย่างไรบ้างดังที่ปรากฏในตำนานวัดบวรนิเวศวิหารเป็นต้นโดยที่พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกายเกิดขึ้นจากผลของการแสวงหาความถูกต้องตามพระธรรมวินัยเริ่มแต่การทรงศึกษาสอบสวนของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตลอดมาจนถึงการศึกษาสอบสวนของพระเถรานุเถระผู้เป็นบูรพาจารย์แห่งคณะธรรมยุตเป็นลำดับมา ธรรมยุติกนิกาย พัฒนาการของธรรมยุติกนิกาย

     ต่อมาในสมัยรัชกาลที่๓พระวชิรญาณเถระหรือเจ้าฟ้ามงกุฏหรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๔ขณะดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฏขณะที่ผนวชอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีได้ทรงศรัทธาเลื่อมใสในจริยาวัตรของพระมอญชื่อซายฉายาพุทฺธวํโสจึงได้ทรงอุปสมบทใหม่ในวงศ์พระสงฆ์มอญหรือรามัญนิกายเมื่อพศ๒๓๗๒และได้ทรงตั้งคณะธรรมยุตขึ้นในปีพศ๒๓๗๖แล้วเสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหารและตั้งเป็นศูนย์กลางของคณะธรรมยุตสืบต่อมาและในรัชกาลที่๕พศ๒๔๔๕พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยพระราชบัญญัติฉบับนี้มีชื่อว่าพระราชบัญญัติคณะสงฆ์รศ๑๒๑มีสาระสำคัญคือได้ยกสถานะคณะธรรมยุตให้เป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมายทำให้มีการแบ่งแยกเรียกนิกายของคณะสงฆ์ใหม่ตามศัพท์บัญญัติของพระวชิรญาณเถระว่าธรรมยุติกนิกายและเรียกกลุ่มพระสงฆ์เถรวาทลังกาวงศ์พื้นเมืองที่มีมาอยู่แต่เดิมว่ามหานิกายสืบมาจนปัจจุบันนี้ มหานิกาย มหานิกาย

     ตอนที่ไม่มีทางรอดมีแต่ตายแน่ไรเงี้ยแหละค่ะอย่างไฟไหม้บ้านก็รีบวิ่งหนีออกจากบ้านก่อนนะคะไม่ใช่นั่งทำสัจจกริยาอยู่ท่ามกลางไฟที่กำลังลุกไหม้ทั้งๆที่วิ่งหนีออกมาก็พ้นภัยแล้วโดยพระธวัชชัยธชชโยชมรมพุทธเบญจจินดา๒๔มีนาคมพศ๒๕๕๘สัจจกริยาสัจจกริยาสัจจกริยาทำตอน

     ตั้งสัจจกริยาโลดค่ะเมื่ออยู่ในเหตุการณ์วิกฤตถึงชีวิตจะทำอย่างไรดีสัจจกริยาสัจจกริยาตั้ง

     ต้องฝึกตนให้เป็นคนมีสัจจะไม่ผิดศีลข้อ๔สุดท้ายก็จะเป็นคนมีวาจาสิทธิ์พูดไรเป็นอย่างนั้นเองแหละค่ะวาจาสิทธิ์วาจาสิทธิ์วาจาสิทธิ์ทำอย่างไร

     ตัวยังไม่ใช่ของแล้วสิ่งทั้งหลายทั้งปวงจะเป็นของได้อย่างไรกันหล่ะคะพนมพรตัวเราตัวเราตัวเราไม่ใช่ของเรา

     ตอนนั้นพระองค์ทรงประทับนั่งขัดสมาธิใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ณอุรุเวลาเสนานิคมเมืองพาราณสีหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกและตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณก็จะไม่ลุกขึ้นจากสมาธิบัลลังก์แม้จะมีหมู่มารเข้ามาขัดขวางแต่ก็พ่ายแพ้พระบารมีของพระองค์กลับไปจนเวลาผ่านไปในที่สุดพระองค์ทรงบรรลุรูปฌาณคือครานั้นพระองค์ทรงประทับนั่งขัดสมาธิใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ณอุรุเวลาเสนานิคมเมืองพาราณสีหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกและตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณก็จะไม่ลุกขึ้นจากสมาธิบัลลังก์แม้จะมีหมู่มารเข้ามาขัดขวางแต่ก็พ่ายแพ้พระบารมีของพระองค์กลับไปจนเวลาผ่านไปในที่สุดพระองค์ทรงบรรลุรูปฌาณคือ ยามต้นหรือปฐมยามทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณคือสามารถระลึกชาติได้ ยามสองทางบรรลุจุตูปปาตญาณทิพยจักษุญาณคือรู้เรื่องการเกิดการตายของสัตว์ทั้งหลายว่าเป็นไปตามกรรมที่กำหนดไว้ ยามสามทรงบรรลุอาสวักขยญาณคือความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะหรือกิเลสด้วยอริยสัจ๔ได้แก่ทุกข์สมุทัยนิโรธและมรรคและได้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นศาสดาเอกของโลกซึ่งวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ตรงกับวันเพ็ญเดือน๖ขณะที่มีพระชนม์๓๕พรรษาค่ะ พุทธประวัติ พุทธประวัติ พุทธประวัติ สิ้นอาสวะ



๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ