ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
วิตกแก้ถีนมิทธะองค์ฌานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อนิวรณ์ถีนมิทธะถีนมิทธะวิตก
วิริยะแก้ถีนมิทธะพละ๕ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อนิวรณ์ถีนมิทธะถีนมิทธะวิริยะ
วิกาลโภชนาเวรมณีสิกฺขาปทํสมาทิยามิเว้นจากการทานอาหารในยามวิกาลหรือหลังเที่ยงถึงวันใหม่
ศีล๘ข้อ๖
ศีล๘
ศีล๘
ศีลขั้นต่ำของพระอนาคามี
วิธีอุปสมบทแบบเอสาหังค่ะ
เริ่มต้นกุลบุตรผู้มีศรัทธามุ่งอุปสมบทรับผ้าไตรอุ้มประนมมือเข้าไปในสังฆสันนิบาตวางผ้าไตรไว้ข้างตัวด้านซ้ายรับเครื่องสักการะถวายพระอุปัชฌาย์แล้วกราบลงด้วยเบญจางคประดิษฐ์๓ครั้งแล้วนั่งคุกเข่าอุ้มผ้าไตรประนมมือเปล่งวาจาถึงสรณะและขอบรรพชาด้วยคามคธโดยหยุดตามเครื่องหมายจุลภาค,นะคะว่า
เอสาหังภันเต,สุจิระปะรินิพพุตัมปิ,ตังภะคะวันตังสะระณังคัจฉามิ,ธัมมัญจะภิกขุสังฆัญจะ,ละเภยยาหังภันเต,ตัสสะภะคะวะโต,ธัมมะวินะเยปัพพัชชัง,ละเภยยังอุปะสัมปะทังฯทุติยัมปาหังภันเต,สุจิระปะรินิพพุตัมปิ,ตังภะคะวันตังสะระณังคัจฉามิ,ธัมมัญจะภิกขุสังฆัญจะ,ละเภยยาหังภันเต,ตัสสะภะคะวะโต,ธัมมะวินะเยปัพพัชชัง,ละเภยยังอุปะสัมปะทังฯตะติยัมปาหังภันเต,สุจิระปะรินิพพุตัมปิ,ตังภะคะวันตังสะระณังคัจฉามิ,ธัมมัญจะภิกขุสังฆัญจะ,ละเภยยาหังภันเต,ตัสสะภะคะวะโต,ธัมมะวินะเยปัพพัชชัง,ละเภยยังอุปะสัมปะทังฯ
อะหังภันเต,ปัพพัชชังยาจามิ,อิมานิกาสายานิวัตถานิคะเหตวา,ปัพพาเชถะมังภันเต,อะนุกัมปังอุปาทายะฯทุติยัมปิอะหังภันเต,ปัพพัชชังยาจามิ,อิมานิกาสายานิวัตถานิคะเหตะวา,ปัพพาเชถะมังภันเต,อะนุกัมปังอุปาทายะฯตะติยัมปิอะหังภันเต,ปัพพัชชังยาจามิ,อิมานิกาสายานิวัตถานิคะเหตะวา,ปัพพาเชถะมังภันเต,อะนุกัมปังอุปาทายะฯ
ถ้าบวชเป็นสามเณรให้ตัดคำว่าละเภยยังอุปะสัมปะทังออกทุกแห่งด้วยนะคะลำดับนั้นพระอุปัชฌาย์รับผ้าไตรจากผู้มุ่งบรรพชาวางไว้ตรงหน้าตักแล้วให้โอวาทและบอกตะจะปัญจะกะกัมมัฏฐานให้ว่าตามไปทีละบทโดยอนุโลมไปข้างหน้าและปฏิโลมทวนกลับดังนี้ค่ะ
เกสาโลมานะขาทันตาตะโจอนุโลมตะโจทันตานะขาโลมาเกสาปฏิโลม
ครั้นให้โอวาทแล้วพระอุปัชฌาย์ดึงอังสะออกจากผ้าไตรสวมให้ผู้บวชแล้วสั่งให้ออกไปครองผ้าไตรจีวรตามระเบียบครั้นเสร็จแล้วเข้าไปหาพระกรรมวาจาจารย์รับเครื่องสักการะถวายท่านแล้วกราบ๓ครั้งนั่งคุกเข่าประนมมือเปล่งวาจาขอสรณะและศีลดังนี้
อะหังภันเต,สะระณะสีลังยาจามิฯทุติยัมปิอะหังภันเต,สะระณะสีลังยาจามิฯตะติยัมปิอะหังภันเต,สะระณะสีลังยาจามิฯ
ลำดับนั้นพระอาจารย์กล่าวคานมัสการให้ผู้มุ่งบรรพชาว่าตามไปดังนี้
นะโมตัสสะภะคะวะโตอะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะฯว่า๓หนนะคะ
แต่นั้นท่านจะกล่าวว่าเอวังวะเทหิหรือยะมะหังวะทามิตังวะเทหิพึงรับว่าอามะภันเต
ครั้นแล้วท่านจะว่านำให้เปล่งวาจาว่าสรณคมน์พึงว่าตามไปที่ละพากย์ตอนดังนี้ค่ะ
พุทธังสะระณังคัจฉามิฯธัมมังสะระณังคัจฉามิฯสังฆังสะระณังคัจฉามิฯทุติยัมปิพุทธังสะระณังคัจฉามิฯทุติยัมปิธัมมังสะระณังคัจฉามิฯทุติยัมปิสังฆังสะระณังคัจฉามิฯตะติยัมปิพุทธังสะระณังคัจฉามิฯตะติยัมปิธัมมังสะระณังคัจฉามิฯตะติยัมปิสังฆังสะระณังคัจฉามิฯ
เมื่อจบแล้วท่านจะกล่าวว่าติสะระณะคะมะนังนิฏฐิตังก็ให้รับว่าอามะภันเต
ลำดับนั้นท่านจะบอกให้รู้ว่าการบรรพชาเป็นสามเณรสำเร็จด้วยสรณคมน์เพียงเท่านี้ผู้มุ่งอุปสมบทเป็นสามเณรเมื่อจบไตรสรณคมน์จากนั้นพึงสมาทานสิกขาบท๑๐ประการโดยว่าตามไปทีละพากย์ดังนี้
ปาณาติปาตาเวระมะณีอะทินนาทานาเวระมะณีอะพรัหมจะริยาเวระมะณีมุสาวาทาเวระมะณีสุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานาเวระมะณีวิกาละโภชะนาเวระมะณีนัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนาเวระมะณีมาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานาเวระมะณีอุจจาสะยะนะมะหาสะยะนาเวระมะณีชาตะรูปะระชะตะปฏิคคะหะณาเวระมะณี
อิมานิทะสะสิกขาปะทานิสะมาทิยามิฯข้อความตอนนี้ว่า๓หนค่ะ
ในลำดับนั้นสามเณรพึงรับบาตรอุ้มเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ในสังฆสันนิบาตวางไว้ข้างตัวด้านซ้ายรับเครื่องสักการะถวายท่านแล้วกราบ๓ครั้งนั่งคุกเข่าประนมมือกล่าวคาขอนิสัยว่าดังนี้
อะหังภันเตนิสสะยังยาจามิฯทุติยัมปิอะหังภันเต,นิสสะยังยาจามิฯตะติยัมปิอะหังภันเต,นิสสะยังยาจามิฯ
อุปัชฌาโยเมภันเต,โหหิข้อความตอนนี้ให้ว่า๓หนพระอุปัชฌาย์กล่าวว่าโอปายิกัง,ปะฏิรูปัง,ปาสาทิเกนะสัมปาเทหิบทใดบทหนึ่งพึงรับว่าสาธุภันเตทุกบทไปแต่นั้นสามเณรพึงกล่าวรับเป็นธุระให้กันและกันว่าดังนี้
อัชชะตัคเคทานิเถโร,มัยหังภาโร,อะหัมปิเถรัสสะภาโรฯว่า๓หนเสร็จแล้วกราบลง๓ครั้ง
ลำดับนั้นพระอุปัชฌาย์แนะนาสามเณรไปตามระเบียบแล้วเอาบาตรมีสายคล้องตัวผู้มุ่งอุปสมบทและบอกบริขารคือบาตรผ้าสังฆาฏิจีวรและผ้าสบงแก่ผู้มุ่งอุปสมบทให้รับว่าอามะภันเต๔หนดังนี้ค่ะ
คำบอกบริขาร|คำรับ๑อะยันเตปัตโต|อามะภันเต๒อะยังสังฆาฏิ|อามะภันเต๓อะยังอุตตะราสังโค|อามะภันเต๔อะยังอันตะระวาสะโก|อามะภันเต
ต่อจากนั้นพระอุปัชฌาย์จะบอกให้ออกไปข้างนอกว่าคัจฉะอะมุมหิโอกาเสติฏฐาหิผู้บวชพึงถอยออกลุกขึ้นไปยืนอยู่ในที่ที่กาหนดไว้ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณทางเข้าโบสถ์พระคู่สวดจะสวดสมมติตนเป็นผู้สอนซ้อมเรียกว่าคู่สวดคือพระกรรมวาจาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์แล้วออกไปสวดถามอันตรายิกธรรมพึงรับว่านัตถิภันเต๕หนและอามะภันเต๘หนดังนี้
ถาม|ตอบ๑กุฏฐัง|นัตถิภันเต๒คัณโฑ|นัตถิภันเต๓กิลาโส|นัตถิภันเต๔โสโส|นัตถิภันเต๕อะปะมาโร|นัตถิภันเต
ถาม|ตอบ๑มะนุสโสสิ|อามะภันเต๒ปุริโสสิ|อามะภันเต๓ภุชิสโสสิ|อามะภันเต๔อะนะโณสิ|อามะภันเต๕นะสิราชะภะโฏ|อามะภันเต๖อะนุญญาโตสิมาตาปิตูหิ|อามะภันเต๗ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ|อามะภันเต๘ปะริปุณณันเตปัตตะจีวะรัง|อามะภันเต
ถาม|ตอบ๑กินนาโมสิ|อะหังภันเต(๑)………นามะ๒โกนามะเตอุปัชฌาโย|อุปัชฌาโยเมภันเตอายัสสะมา(๒)………นามะ
ส่วนช่องที่(๑)……………เว้นไว้ซึ่งพระอุปัชฌาย์จะตั้งชื่อของอุปสัมปทาเปกขะกรอกลงในช่องให้ไว้ก่อนวันบวชและช่องที่(๒)………………ไว้ในช่องชื่อของพระอุปัชฌาย์ก็เช่นเดียวกันให้กรอกตามชื่อของพระอุปัชฌาย์ซึ่งท่านจะบอกและกรอกให้ไว้ก่อนวันบวชค่ะ
ครั้นสวดสอนซ้อมแล้วพระคู่สวดจะกลับเข้ามาสวดขอเรียกอุปสัมปทาเปกขะเข้ามาอุปสัมปทาเปกขะพึงเข้ามาในสังฆสันนิบาตกราบลงตรงหน้าพระอุปัชฌาย์๓ครั้งแล้วนั่งคุกเข่าประนมมือเปล่งวาจาขออุปสมบทดังนี้
สังฆัมภันเต,อุปะสัมปะทังยาจามิ,อุลลุมปะตุมังภันเต,สังโฆอะนุกัมปังอุปาทายะฯทุติยัมปิภันเต,สังฆังอุปะสัมปะทังยาจามิ,อุลลุมปะตุมังภันเต,สังโฆอะนุกัมปังอุปาทายะฯตะติยัมปิภันเต,สังฆังอุปะสัมปะทังยาจามิ,อุลลุมปะตุมังภันเต,สังโฆอะนุกัมปังอุปาทายะฯถ้าบวชพร้อมกันหลายคนให้เปลี่ยนคาว่ายาจามิเป็นยาจามะและเปลี่ยนมังเป็นโน
ในลำดับนั้นพระอุปัชฌาย์กล่าวเผดียงสงฆ์แล้วพระอาจารย์คู่สวดสวดสมมติตนถามอันตรายิกธรรมอุปสัมปทาเปกขะพึงรับว่านัตถิภันเต๕หนอามะภันเต๘หนบอกชื่อตนและชื่อพระอุปัชฌาย์รวม๒หนแต่นั้นพึงนั่งฟังท่านสวดกรรมวาจาอุปสมบทไปจนจบครั้นจบแล้วท่านเอาบาตรออกจากตัวแล้วพึงกราบลง๓ครั้งนั่งพับเพียบประนมมือฟังพระอุปัชฌาย์บอกอนุศาสน์ไปจนจบแล้วรับว่าอามะภันเตแล้วกราบ๓ครั้งถวายไทยธรรมกรวดน้ำ
พระพุทธศาสนาคำขอบวชแบบอุกาสะ
คำขอบวชพระ
บวช
บวช
เอสาหัง
วิธีตรวจสอบคนดีตามหลักพระพุทธศาสนา๑ทำดี๒ไม่ทำชั่ว๓ชำระจิตให้ผ่องใสอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่ใช่ดีเพราะประจบสอพลอดีแต่งตัวดีรถยนต์ยี่ห้อดีบ้านรวยดีเป็นต้นค่ะ
อาจารย์ปฐมพงษ์โพธิ์ประสิทธินันท์
คนดี
คนดี
คนดี
ดีชั่วผ่อง
ว่านอนสอนง่ายดีจังเลยนะคะเนี่ย
วันหนึ่งเจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อความจำเจในปราสาท๓ฤดูจึงชวนสารถีทรงรถม้าประพาสอุทยานครั้งนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นคนแก่คนเจ็บคนตายและนักบวชโดยเทวทูตทูตสวรรค์ที่แปลงกายมาพระองค์จึงทรงคิดได้ว่านี่เป็นธรรมดาของโลกชีวิตของทุกคนต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงเกิดแก่เจ็บตายได้จึงทรงเห็นว่าความสุขทางโลกเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นและวิถีทางที่จะพ้นจากความทุกข์คือต้องครองเรือนเป็นสมณะดังนั้นพระองค์จึงใคร่จะเสด็จออกบรรพชาในขณะที่มีพระชนม์๒๙พรรษา
ตอนนั้นพระองค์ได้เสด็จไปพร้อมกับนายฉันทะสารถีซึ่งเตรียมม้าพระที่นั่งนามว่ากัณฑกะมุ่งตรงไปยังแม่น้ำอโนมานทีก่อนจะประทับนั่งบนกองทรายทรงตัดพระเมาลีด้วยพระขรรค์และเปลี่ยนชุดผ้ากาสาวพัตร์ผ้าย้อมด้วยรสฝาดแห่งต้นไม้และให้นายฉันทะนำเครื่องทรงกลับพระนครก่อนที่พระองค์จะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์การเสด็จออกเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่ไปโดยเพียงลำพังเพื่อมุ่งพระพักตร์ไปยังแคว้นมคธค่ะ
พุทธประวัติ
พุทธประวัติ
พุทธประวัติ
แก่เจ็บตายนักบวช
วันพระหรือวันธรรมสวนะหมายถึงวันประชุมถือศีลฟังธรรมในพุทธศาสนาค่ะกำหนดเดือนทางจันทรคติละ๔วันได้แก่
วันขึ้น๘ค่ำ
วันขึ้น๑๕ค่ำวันเพ็ญ
วันแรม๘ค่ำ
วันแรม๑๕ค่ำหากเดือนใดเป็นเดือนขาดถือเอาวันแรม๑๔ค่ำ
วันพระ
วันพระ
วันพระ
ขึ้นแรมค่ำ
วิธีรับประทานควินัวสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการหุงเหมือนหุงข้าวแล้วทานแทนข้าวได้เลยหรือหุงร่วมกับข้าวและธัญพืชชนิดอื่นอื่นส่วนที่นิยมอีกอย่างก็คือนำควินัวไปเป็นส่วนผสมในอาหารชนิดต่างต่างทั้งข้าวผัดข้าวอบข้าวต้มข้าวตุ๋นหรือสุดแท้แต่ใครจะสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นค่ะ
ควินัว
ควินัว
คอหมูย่าง
หุงข้าว
วิธีต้มผักให้อร่อย
๑ล้างผักให้สะอาดแยกผักออกเป็นส่วนที่สุกยากเช่นต้นก้านและส่วนที่สุกง่ายเช่นใบยอดดอก
๒ตั้งน้ำให้เดือดพยายามใส่น้ำให้น้อยที่สุดหรือพอให้ท่วมผักเมื่อใส่ลงไปในหม้อแล้วเพื่อถนอมคุณค่าทางอาหารต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือและน้ำมันอย่างละประมาณ๑ช้อนชาเกลือทำให้ผักมีรสชาติน้ำมันทำให้ผักมีสีเขียวไม่คล้ำ
๓เร่งไฟแรงใส่ผักลงไปต้มโดยใส่ส่วนที่สุกยากก่อนสักพักแล้วค่อยตามด้วยส่วนที่สุกง่าย
ขั้นสุดท้ายเมื่อผักสุกใบเปลี่ยนเป็นสีเขียวสม่ำเสมอให้ตักผักขึ้นแช่ในน้ำแข็งทันทีคลุกเคล้าผักกับน้ำแข็งเบาๆเพื่อให้ผักคายความร้อนไม่สุกต่อถ้าไม่แช่น้ำแข็งจะทำให้ผักนิ่มไม่กรุบกรอบและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือเขียวคล้ำไม่น่ากินค่ะ
[]วิธีลวกผักกรอบสีสวยน่าทานไม่หมอง[]
การลวกผักให้สีสวยและกรอบ
ผัก
ผัก
น้ำแข็ง
๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ