ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
อกุศลกรรมหมายถึงบาปกรรมชั่วความชั่วร้ายความเสียหายความไม่ถูกต้องซึ่งให้ผลเป็นความทุกข์เป็นสิ่งที่ควรเว้นการกระทำบาปกระทำความชั่วเรียกว่าทำอกุศลกรรมเรียกย่อว่าทำอกุศลหรือเรียกว่าทำบาปอกุศลค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
ให้ผลเป็นความทุกข์
อกุศลกรรมเกิดมาจากอกุศลมูลอย่างใดอย่างหนึ่งใน๓อย่างคือโลภะโทสะโมหะเพราะเมื่อเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้วก็เป็นเหตุชักนำใจให้คิดทำอกุศลกรรมเช่นเมื่อโลภะเกิดขึ้นก็เป็นเหตุให้คิดอยากได้เมื่ออยากได้ก็แสวงหาเมื่อไม่ได้ตามต้องการด้วยวิธีสุจริตก็เป็นเหตุให้ทำอกุศลกรรมอื่นต่อไปเช่นลักขโมยปล้นจี้ฉ้อโกงเป็นต้น
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
โลภะโทสะโมหะ
อกุศลกรรมแปลว่ากรรมที่เป็นอกุศลกรรมไม่ดีการกระทำของคนไม่ฉลาด
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
อกุศลกรรม
กรรมไม่ดี
อคติหมายถึงไม่ควรประพฤติในประเทศเราใช้ในความหมายว่าลำเอียงมี๔คือฉันทาคติโทสาคติภยาคติและโมหาคติค่ะ
อคติ
อคติ
อคติ
หิริ
ไม่ควรประพฤติ
อคติแปลว่าไม่ควรถึงค่ะ
อคติ
อคติ
อธิปัญญาสิกขาคือการที่ภิกษุได้บรรลุจตุตถฌานแล้วนั่งเข้าฌานด้วยจิตอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วเธอมีจิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วควรแก่การงานตั้งมั่นไม่หวั่นไหวอย่างนี้แล้วก็โน้มน้อมจิตไปเพื่อญานทัสสนะจนได้บรรลุวิชชาหรือเห็นประจักษ์ซึ่งสามัญญผลที่สูงขึ้นดียิ่งขึ้นตามลำดับคือวิปัสสนาญานมโนมยิทธิญานอิทธิวิธิญานทิพพโสตธาตุญานเจโตปริยญานปุพเพนิวาสานุสสติญานทิพพจักขุญานและอาสวักขยญานรู้ชัดตามความเป็นจริงว่านี้คือทุกข์นี้คือทุกขสมุทัยนี้คือทุกขนิโรธนี้คือทุกขนิรธิคามินีปฏิปทานี้คืออาสวะนี้คือเหตุให้เกิดอาสวะนี้คือความดับอาสวะนี้คือข้อปฏิบัติให้ถึงความดับอาสวะปฏิบัติดังนี้แลที่เรียกว่าอธิปัญญาสิกขาค่ะ
อธิปัญญาสิกขา
อธิปัญญาสิกขา
อธิปัญญาสิกขาคือการปฏิบัติเพื่อเจริญปัญญาให้สูงขึ้นจนตัดกิเลสได้เด็ดขาดเป็นข้อหนึ่งในไตรสิกขาคืออธิศีลสิกขาอธิจิตสิกขาอธิปัญญาสิกขาค่ะ
อธิปัญญาสิกขา
อธิปัญญาสิกขา
อธิปัญญาสิกขาแปลว่าการศึกษาในอธิปัญญาค่ะ
อธิปัญญาสิกขา
อธิปัญญาสิกขา
อธิษฐานอุโบสถหมายถึงอุโบสถที่ทำด้วยการอธิษฐานใช้เรียกการทำอุโบสถของภิกษุรูปเดียวกล่าวคือในกรณีปกติจะรวมกันทำอุโบสถร่วมกันเป็นสังฆกรรมแต่ในกรณีที่ในวัดมีภิกษุรูปเดียวและไม่มีภิกษุอื่นมาร่วมทำอุโบสถให้ครบองค์สงฆ์ด้วยเมื่อรอจนหมดเวลาแล้วทรงอนุญาตให้ภิกษุนั้น้ทำอุโบสถรูปเดียวได้โดยการอธิษฐานว่า
"อัชชะเมอุโปสโถ"แปลว่า"วันนี้เป็นวันอุโบสถของเรา"และอธิษฐานอุโบสถที่ทำเช่นนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปุคคลอุโบสถค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อธิษฐานอุโบสถ
อธิษฐานอุโบสถ
อนัตตตาหรืออนัตตลักษณะคืออาการของอนัตตาอาการของสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนอาการที่ไม่มีตัวตนอาการที่แสดงถึงความไม่ใช่ใครไม่ใช่ของใครไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใครอาการที่แสดงถึงไม่มีตัวตนที่แท้จริงของมันเองอาการที่แสดงถึงความไม่มีอำนาจแท้จริงในตัวเลยอาการที่แสดงถึงความด้อยสมรรถภาพโดยสิ้นเชิงไม่มีอำนาจกำลังอะไรต้องอาศัยพึงพิงสิ่งอื่นๆมากมายจึงมีขึ้นได้ไตรลักษณ์
อนัตตากับอนัตตลักษณะเป็นคนละอย่างกันเพราะเป็นลักขณวันตะและลักขณะของกันและกันอนัตตลักษณะทำให้เราทราบได้ว่าขันธ์๕ไม่มีตัวตนไร้อำนาจไม่มีเนื้อแท้แต่อย่างใดได้แก่อาการที่ไร้อำนาจบังคับตัวเองให้ไม่เปลี่ยนแปลงไปของขันธ์๕เช่นอาการที่ขันธ์๕บังคับตนไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ไม่ให้เสื่อมสิ้นไปเป็นขันธ์๕อันใหม่ไม่ได้อาการที่ขันธ์๕บังคับตนไม่ให้มีขึ้นไม่ได้ไม่ให้กลับไปไม่มีอีกครั้งไม่ได้บังคับให้ไม่หมดไปไม่ได้เป็นต้นในวิสุทธิมรรคท่านได้ยกอนัตตลักษณะจากปฏิสัมภิทามรรคมาแสดงไว้๕แบบเรียกว่าโต๕และในพระไตรปิฎกยังมีการแสดงอนัตตลักษณะไว้ในแบบอื่นๆอีกมากมายแต่คัมภีร์ที่รวบรวมไว้เป็นเบื้องต้นเหมาะสำหรับเป็นคู่มือสำหรับปฏิบัติธรรมได้แก่คัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรคเพราะสามารถจะจำคำที่คนโบราณใช้กำหนดกันจากคัมภีร์นี้แล้วนำไปใช้ได้ทันทีดังที่ท่านแสดงไว้เป็นต้นว่า"จกฺขุอหุตฺวาสมฺภูตํหุตฺวานภวิสฺสตีติววตฺเถติ"นักปฏิบัติธรรมย่อมกำหนดว่า"จักขุปสาทที่ยังไม่เกิดก็เกิดมีขึ้นพอมีขึ้นแล้วต่อไปก็จะกลายเป็นไม่มีไปอีก"เป็นต้น
อนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
คนละอย่างกับอัตตา
อนัตตาที่ขันธ์๕ได้ชื่อนี้เพราะมีอนัตตลักษณะดังนี้ค่ะ๑เป็นสภาพว่างเปล่าคือหาสภาวะที่แท้จริงไม่ได้เพราะประกอบด้วยธาตุ๔เมื่อแยกธาตุออกสภาวะที่แท้จริงก็ไม่มี๒หาเจ้าของมิได้คือไม่มีใครเป็นเจ้าของแท้จริงสงวนรักษามิให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้๓ไม่อยู่ในอำนาจคือไม่อยู่ในบัญชาของใครใครบังคับไม่ได้เช่นบังคับมิให้แก่ไม่ได้๔แย้งต่ออัตตาคือตรงข้ามกับอัตตา
อนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
ตรงข้ามกับอัตตา
อนัตตาแปลว่าไม่ใช่ตัวตนค่ะ
อัตตาและอนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
อนัตตา
ไม่ใช่ตัวตน
อนันตริยกรรมหมายถึงกรรมหนักที่สุดฝ่ายบาปอกุศลซึ่งให้ผลทันทีมี๕อย่างคือ๑มาตุฆาตฆ่ามารดา๒ปิตุฆาตฆ่าบิดา๓อรหันตฆาตฆ่าพระอรหันต์๔โลหิตุปบาททำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อขึ้นไปเช่นพระเทวทัตได้ทำร้ายพระพุทธองค์ในสมัยพุทธกาล๕สังฆเภทยังสงฆ์ให้แตกกันทำลายสงฆ์
อนันตริยกรรม
อนันตริยกรรม
อนันตริยกรรม
อนันตริยกรรม
กรรมหนักที่สุด
อนันตริยกรรม๔ประการแรกคือมาตุฆาตปิตุฆาตอรหันตฆาตและโลหิตตุปบาทจัดเป็นสาธารณอนันตริยกรรมค่ะ
อนันตริยกรรม
สาธารณอนันตริยกรรม
สาธารณอนันตริยกรรม
สาธารณอนันตริยกรรม
๔ประการ
อนาคตสุดท้ายก็ได้พระอรหันต์เข้านิพพานเช่นกันค่ะ
อนาคตของ
อนาคต
อนาคต
นิพพาน
อนาคามีหมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดในกามาวจรภพอีกแต่จะเกิดในพรหมโลกอีกเพียงครั้งเดียวแล้วจะนิพพานจากพรหมโลกนั้นเลยเป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลประเภทที่๓ใน๔ประเภทคือโสดาบันสกทาคามีอนาคามีอรหันต์เป็นผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำหรือโอรัมภาคิยสังโยชน์ทั้ง๕ประการได้แล้วค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัดวัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อริยบุคคล
อนาคามี
อนาคามี
อนาคามี
เกิดในพรหมโลกอีกเพียงครั้งเดียว
อนาคามีแปลว่าผู้ไม่มาเกิดอีกค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัดวัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อริยบุคคล
อนาคามี
อนาคามี
อนาคามี
ผู้ไม่มาเกิดอีก
อนิจจตาหรืออนิจจลักษณะคืออาการไม่เที่ยงอาการไม่คงที่อาการไม่ยั่งยืนอาการที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมและสลายไปอาการที่แสดงถึงความเป็นสิ่งไม่เที่ยงของขันธ์ไตรลักษณ์
อนิจจะกับอนิจจลักษณะเป็นคนละอย่างกันเพราะเป็นลักขณวันตะและลักขณะของกันและกันดังนี้อนิจจังอนิจฺจํหมายถึงขันธ์๕ทั้งหมดเป็นปรมัตถ์เป็นสภาวะธรรมมีอยู่จริงคำว่าอนิจจังเป็นคำไวพจน์ชื่อหนึ่งของขันธ์๕อนิจจลักษณะอนิจฺจตาอนิจฺจลกฺขณํหมายถึงเครื่องกำหนดขันธ์๕ทั้งหมดซึ่งเป็นตัวอนิจจังอนิจจลักษณะทำให้เราทราบได้ว่าขันธ์๕เป็นของไม่เที่ยงไม่คงที่ไม่ยั่งยืนซึ่งได้แก่อาการความเปลี่ยนแปลงไปของขันธ์๕เช่นอาการที่ขันธ์๕เคยเกิดขึ้นแล้วเสื่อมสิ้นไปเป็นขันธ์๕อันใหม่อาการที่ขันธ์๕เคยมีขึ้นแล้วก็ไม่มีอีกครั้งเป็นต้นในวิสุทธิมรรคท่านได้ยกอนิจจลักษณะจากปฏิสัมภิทามรรคมาแสดงไว้ถึง๒๕แบบเรียกว่าโต๒๕และในพระไตรปิฎกยังมีการแสดงอนิจจลักษณะไว้ในแบบอื่นๆอีกมากมายแต่คัมภีร์ที่รวบรวมไว้เป็นเบื้องต้นเหมาะสำหรับเป็นคู่มือสำหรับปฏิบัติธรรมได้แก่คัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรคเพราะสามารถจะจำคำที่คนโบราณใช้กำหนดกันจากคัมภีร์นี้แล้วนำไปใช้ได้ทันทีดังที่ท่านแสดงไว้เป็นต้นว่า"จกฺขุอหุตฺวาสมฺภูตํหุตฺวานภวิสฺสตีติววตฺเถติ"นักปฏิบัติธรรมย่อมกำหนดว่า"จักขุปสาทที่ยังไม่เกิดก็เกิดมีขึ้นพอมีขึ้นแล้วต่อไปก็จะกลายเป็นไม่มีไปอีก"เป็นต้น
อนิจจัง
อนิจจัง
อนิจจัง
อนิจจัง
คนละอย่างอนิจจลักษณะ
อนิจจังแปลว่าไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนไม่มั่นคงไม่แน่นอนหรือตั้งอยู่ในสภาวะเดิมได้ยาก
อนิจจัง
อนิจจัง
อนิจจัง
อนิจจัง
ตั้งอยู่ในสภาวะเดิมได้ยาก
อนิฏฐารมณ์อ่านว่าอะนิดถารมแปลว่าอารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘อนิฏฐารมณ์
อนิฏฐารมณ์
อนิมิตตวิโมกข์ความพ้นที่เกิดจากปัญญาพิจารณาเห็นไตรลักษณ์คืออนิจจัง
๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ