ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
นวโกวาทเป็นชื่อหนังสือที่เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสวัดบวรนิเวศวิหารเป็นหนังสือที่ประมวลหัวข้อธรรมจากพระไตรปิฎกสำหรับสั่งสอนอบรมและศึกษาเล่าเรียนของพระนวกะโดยเฉพาะผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ง่ายต่อมาใช้เป็นหลักสูตรนักธรรมและธรรมศึกษาชั้นตรีหนังสือนวโกวาทมี๓ส่วนส่วนต้นเป็นวินัยบัญญัติหรือศีลของภิกษุส่วนกลางเป็นธรรมวิภาคคือธรรมที่ต้องแยกคัดจัดไว้เป็นหมวดหมู่เช่นธรรมที่มี๒ข้อย่อยรวมไว้หมวดหนึ่งมี๓ข้อย่อยรวมไว้หมวดหนึ่งเป็นต้นและส่วนหลังเป็นคิหิปฏิบัติคือหลักปฏิบัติและหลักควรเว้นสำหรับคฤหัสถ์หรือชาวบ้านทั่วไปเช่นอบายมุขเป็นต้นหนังสือเล่มนี้เป็นนิยมใช้กันมากในวงการนักศึกษาพระธรรมวินัยตลอดพระราชอาณาจักรและเหมาะสำหรับทุกครอบครัวที่จะมีไว้เพื่อการศึกษา
นวโกวาท
นวโกวาท
นวโกวาท
หนังสือของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
นวโกวาทแปลว่าคำสั่งสอนพระใหม่หรือพระบวชใหม่
ความหมายของคำว่านวโกวาท
นวโกวาท
นวโกวาท
คำสอนพระใหม่
นันทวนุทยานหรือสวนนันทวันแปลว่าสวนที่รื่นรมย์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในสวนด้านที่ใกล้กับตัวเมืองมีสระใหญ่๒สระสระหนึ่งมีชื่อว่าสระนันทาโบกขรณีอีกสระหนึ่งมีชื่อว่าจุลนันทาโบกขรณีมีแผ่นศิลา๒แผ่นแผ่นหนึ่งมีชื่อว่านันทาปริถิปาสาณอีกแผ่นหนึ่งมีชื่อว่าจุลนันทาปริถิปาสาณเป็นศิลาที่มีรัศมีเรืองรองเมื่อจับดูจะรู้สึกว่านิ่มเหมือนขนสัตว์
อุทยานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
นันทวนุทยาน
นันทวนุทยาน
สวนที่รื่นรมย์
นิกายนิยมใช้ใน๒ความหมายคือความหมายหนึ่งเป็นชื่อเรียกคัมภีร์พระสุตตันตปิฎกที่แยกออกเป็น๕หมวดคือฑีฆนิกายมัชฌิมนิกายสังยุตตนิกายอังคุตตรนิกายและขุททกนิกายอีกความหมายหนึ่งเป็นชื่อเรียกคณะนักบวชในศาสนาเดียวกันแต่แยกไปเป็นพวกๆตามความเห็นที่ไม่ตรงกันซึ่งมีในทุกศาสนาในพุทธศาสนาก็อย่างมหานิกายกับธรรมยุตินิกายทักษิณนิกายกับอุตรนิกาย
นิกาย
นิกาย
นิกาย
คณะนักบวชในศาสนา
นิกายแปลว่าหมวดหมู่พวกค่ะ
นิกาย
นิกาย
นิกาย
หมวดหมู่พวก
นิคหกรรมที่ระบุไว้ในพระธรรมวินัยมี๖วิธีคือ๑ตัชนียกรรมข่มไว้ด้วยการตำหนิโทษ๒นิยสกรรมถอดยศทำให้หมดอำนาจหน้าที่๓ปัพพาชนียกรรมขับไล่ออกจากหมู่คณะให้สึก๔ปฏิสารณียกรรมบังคับให้ขอขมาเมื่อล่วงเกินคฤหัสถ์๕อุกเขปนียกรรมตัดสิทธิ์ที่จะพึงได้บางอย่าง๖ตัสสาปาปิยสิกากรรมลงโทษหนักกว่าความผิดฐานให้การกลับไปกลับมา
นิคหกรรม
นิคหกรรม
๖วิธี
นิคหกรรม
นิคหกรรมอ่านว่านิกค่ะหะกำแปลว่าการข่ม
ความหมายของนิคหกรรม
นิคหกรรม
การข่ม
นิคหกรรม
นิตยภัตอ่านว่านิดตะยะพัดแปลว่าอาหารประจำ
นิตยภัตแปลว่าอะไร
นิตยภัต
อาหารประจำ
นิพพิทาหมายถึงความเบื่อหน่ายในกองทุกข์คือเบื่อหน่ายคลายความกำหนัดยินดีในสังขารด้วยการรู้แจ้งเห็นจริงว่าเป็นสิ่งน่าเบื่อเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตาไม่น่ายึดมั่นถือมั่นเป็นความเบื่อหน่ายด้วยปัญญาเบื่อหน่ายถาวรและเกิดขึ้นในทุกสังขารความเบื่อหน่ายธรรมดาความเบื่อหน่ายในสิ่งที่ไม่ชอบเช่นคนป่วยเบื่อหน่ายอาหารภรรยาเบื่อหน่ายสามีที่มีชู้ครูเบื่อหน่ายนักเรียนเกเรไม่จัดเป็นนิพพิทาเพราะไม่เป็นการเบื่อหน่ายแบบถาวรแต่เป็นประเภทเบื่อๆอยากๆนิพพิทาจัดเป็นนิพพิทาญาณคือความหยั่งรู้ด้วยค้วยความเป็นจริงในสังขารด้วยความเบื่อหน่ายเป็นทางให้เกิดวิสุทธิมรรคผลนิพพาน
นิพพิทา
นิพพิทา
ความเบื่อหน่ายในกองทุกข์
นิพพิทา
นิพพิทาแปลว่าความเบื่อหน่าย
นิพพิทาแปลว่าอะไร
นิพพิทา
ความเบื่อหน่าย
นิพพิทา
นิมนต์ใช้ในความหมายว่าเชิญหรือเชื้อเชิญภิกษุสามเณรเช่นนิมนต์มาทางนี้เถิดครับหมายความว่าขอเชิญมาทางนี้และเรียกการเชิญด้วยหนังสือว่าฎีกานิมนต์นิมนต์เป็นคำที่ใช้แทนคำว่าอาราธนาก็ได้แต่ไม่นิยมใช้คู่กันเป็นอาราธนานิมนต์กล่าวคือนิยมใช้คำใดคำหนึ่งเท่านั้นก็เป็นอันเข้าใจเพราะมีความหมายอย่างเดียวกันอย่างเช่นที่ใช้คำว่าขออาราธนาพระคุณเจ้าที่ได้รับอาราธนานิมนต์ไว้ขึ้นมาบนศาลาเพื่อฉันภัตตาหารเพลได้แล้วขอรับอย่างนี้ถือว่าใช้ไม่ถูกต้องตามความนิยม
นิมนต์
นิมนต์
เชื้อเชิญ
นิมนต์
นิมิตหมายถึงวัตถุที่เป็นเครื่องหมายบอกกำหนดเขตหรือแดนแห่งสีมาเป็นเครื่องหมายบอกเขตสีมาที่พระวินัยกำหนดให้ใช้ได้มี๘อย่างคือภูเขาศิลาป่าไม้ต้นไม้จอมปลวกหนทางแม่น้ำน้ำแต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือใช้ศิลาหรือหินเป็นนิมิตนิมิตที่เป็นศิลาหรือสกัดศิลาให้มีลักษณะกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ๓๐ถึง๓๘เซนติเมตรเรียกว่าลูกนิมิตแต่ละสีมาจะใช้ลูกก่อนทำสังฆกรรมผูกสีมานิยมจัดงานกันเอิกเกริกโดยถือกันว่าเป็นงานบุญใหญ่เรียกว่างานปิดทองลูกนิมิตเมื่อทำพิธีตามพระวินัยเสร็จแล้วจะฝังศิลานิมิตนั้นลงไปในดินแล้วสร้างซุ้มครอบไว้ข้างบนโดยมีใบสีมาเป็นเครื่องหมายแทน
ลูกนิมิต
ลูกนิมิต
เครื่องหมายแดนแห่งสีมา
ลูกนิมิต
ปัจจุบันนิตยภัตใช้ในความหมายว่าเงินค่าอาหารที่ทางราชการถวายแก่สงฆ์เป็นประจำมีความเป็นมาคือในอดีตพระเจ้าแผ่นดินได้พระราชทานภัตตาหารแก่พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์หรือที่เคารพนับถือเป็นการส่วนพระองค์โดยให้เจ้าหน้าที่จัดถวายประจำต่อมาพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์มีมากขึ้นและอยู่ตามหัวเมืองก็มีความไม่สะดวกแก่การจัดอาหารถวายแม้จะเปลี่ยนเป็นเงินแล้วก็ยังคงเรียกว่านิตยภัตเหมือนเดิมนิตยภัตถือว่าเป็นเครื่องสักการะที่พระเจ้าแผ่นดินถวายแก่พระสงฆ์ผู้ทำคุณประโยชน์แก่พระศาสนาและบ้านเมือง
นิตยภัต
นิตยภัต
เงินค่าอาหารที่ทางราชการถวายแก่สงฆ์
นิตยภัต
ยิ้มสวยสวยพนมมือแล้วก็ตะโกนว่านิมนต์เจ้าค่า
พระสงฆ์
พระ
นิมนต์
พระ
หรือเนกขัมมวิตกคือความดำริที่ปลอดจากโลภะความนึกคิดที่ปลอดโปร่งจากกามไม่หมกมุ่นพัวพันติดข้องในสิ่งสนองความอยากต่างๆความคิดที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวความคิดเสียสละและความคิดที่เป็นคุณเป็นกุศลทุกอย่างจัดเป็นความนึกคิดที่ปราศจากราคะหรือโลภะ
เนกขัมมสังกัปป์
เนกขัมมสังกัปป์
ปลอดจากโลภะ
เนกขัมมสังกัปป์
อย่าไปแคร์คนพวกนั้นเลยค่ะเค้าก็คงอิจฉาหล่ะมั้งคะเอาแค่คนที่รักเข้าใจก็พอแล้วแหละค่ะ
โดนนินทา
อย่างเค้าว่า
เนกขัมมะหมายถึงการละเหย้าเรือนออกไปบวชเป็นพระเป็นนักบวชการละชีวิตทางโลกไปสู่ชีวิตอันบริสุทธิ์เป็นการปลดเปลื้องตนจากโลกียวิสัยไปบำเพ็ญเพียรเพื่อความปลอดจากราคะและตัณหาปกติใช้เรียกการออกบวชของนักบวชทุกประเภทและใช้ได้ทั้งชายและหญิงเนกขัมมะในพระพุทธศาสนาจัดเป็นบารมีอย่างหนึ่งเรียกว่าเนกขัมมบารมีคือบารมีที่เกิดจากการออกบวชค่ะ
เนกขัมมะ
เนกขัมมะ
ออกไปบวช
เนกขัมมะ
เนกขัมมะแปลว่าการออกการออกบวชความไม่มีกามกิเลสใช้คำว่าเนกขัมก็มีค่ะ
เนกขัมมะแปลว่าอะไร
เนกขัมมะ
การออกบวช
เนกขัมมะ
เนยยะพวกที่มีสติปัญญาน้อยแต่เป็นสัมมาทิฏฐิเมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอมีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อมีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้าเปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่งค่ะ
เนยยะ
เนยยะ
ปัญญาน้อยขยันศรัทธา
เนกขัมมะ
เป็นวิธีการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัยเพื่อให้เข็ดหลาบนิคหกรรมใช้สำหรับลงโทษภิกษุผู้ทำเสียหายเช่นก่อการทะเลาะวิวาทบาดหมางทำความอื้ฉาวมีศีลวิบัติติเตียนพระรัตนตรัยเล่นค่ะนองประพฤติอนาจารลบล้างพระบัญญัติประกอบมิจฉาชีพเป็นต้นนิคหกรรมเป็นกิจที่พึงทำอย่างหนึ่งของผู้ปกครองหมู่คณะเป็นคำคู่กับปัคหะคือการยกย่องทั้งสองอย่างนี้เป็นเครื่องมือในการปกครองมีความสำคัญเท่าๆกันทั้งนี้เพื่อความอยู่ผาสุกแห่งสงฆ์เมื่อมีผู้ประพฤติมิชอบสมควรแก่นิคหกรรมพระพุทธเจ้าก็ทรงประทานอนุญาตให้สงฆ์ทำนิคหกรรมแก่ผู้นั้นตามพระธรรมวินัยนิคหกรรมในปัจจุบันมีกฎของคณะสงฆ์เพื่อการนี้เรียกว่ากฎนิคหกรรมแต่ใช้ในกรณีความผิดที่ร้ายแรงหรือคุรุกาบัติและต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัยเท่านั้น
ความหมายของนิคหกรรม
นิคหกรรม
การลงโทษภิกษุ
นิคหกรรม
แหมรู้ดีเหมือนกันนะคะเนี่ยว่าเอาเองนาว่าที่มาของน้ำมนต์ต่างกันหล่ะค่ะคืออาศัยคุณของพระรัตนตรัยแต่จะว่าไปอีกอันเค้าก็อาจจะอ้่างคุณของพระรัตนตรัยเหมือนกันแต่จุดประสงค์ต่างกันแน่นนอนค่ะพระพุทธเจ้าท่านสั่งพระอานนท์ทำเพื่อช่วยชาวเมืองแต่ถ้าทำเพื่อเลี้ยงชีพนี่ไม่ใช่แล้วป่าวคะ
น้ำมนต์
น้ำมนต์
น้ำมนต์
ไม่ใช่เพื่อเลี้ยงชีพ
ในเมื่อไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าว่าก็อย่าไปใส่ใจเลยค่ะว่านะ
โดนนินทา
นินทา
ใส่ใจ
บัวสี่เหล่าคืออุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว๔จำพวกที่อยู่ในฐานะของบุคคลที่สามารถฝึกสอนให้รู้ธรรมได้และไม่ได้ในทางพระพุทธศาสนาเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าเปรียบบุคคลเสมือนบัวจำพวกต่างๆนั้นเป็นข้อความที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถาและพระไตรปิฏกว่าเมื่อแรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้พระองค์ได้พิจารณาว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อนสุขุมคัมภีรภาพยากต่อบุคคลจะรู้เข้าใจและปฏิบัติได้แต่ต่อมาได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้งแล้วทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวกบางพวกสอนได้บางพวกสอนไม่ได้เปรียบเสมือนบัว๔เหล่าตามนัยอรรถกถาหรือ๓เหล่าตามนัยพระไตรปิฎก
ตามนัยอรรถกถาได้อธิบายบุคคล๔ในปุคคลวรรคพระไตรปิฏกปนกับอุปมาเปรียบบุคคลด้วยดอกบัว๓เหล่าในมัชฌิมนิกายมัชฌิมปัณณาสก์โดยลงความเห็นว่าบุคคล๔ที่พระพุทธองค์ตรัสในปุคคลวรรคเปรียบกับดอกบัว๓เหล่าโดยได้เพิ่มบัวเหล่าที่๔เข้าไปในบุคคล๔ในปุคคลวรรคดังนี้บุคคล๔จำพวกคืออุคฆฏิตัญญูวิปจิตัญญูเนยยปทปรมะก็เปรียบเหมือนดอกบัว๔เหล่านั้นแลในบุคคล๔จำพวกนั้นบุคคลที่ตรัสรู้ธรรมพร้อมกับเวลาที่ท่านยกขึ้นแสดงชื่ออุคฆฏิตัญญูบุคคลที่ตรัสรู้ธรรมเมื่อท่านแจกความแห่งคำย่อโดยพิสดารชื่อว่าวิปจิตัญญูบุคคลที่ตรัสรู้ธรรมโดยลำดับด้วยความพากเพียรท่องจำด้วยการไต่ถามด้วยทำไว้ในใจโดยแบบคายด้วยคบหาสมาคมกับกัลยาณมิตรชื่อว่าเนยยบุคคลที่ไม่ตรัสรู้ธรรมได้ในชาตินั้นแม้เรียนมากทรงไว้มากสอนเขามากชื่อว่าปทปรมะ
บัวสี่เหล่า
บัวสี่เหล่า
บัวสี่เหล่า
บัวสี่เหล่า
บุคคล๔จำพวก
๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ