ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
มิจฉาวณิชชาคือการค้าขายที่ผิดหรือไม่ชอบธรรมหมายถึงบุคคลไม่ควรค้าขายสิ่งเหล่านี้ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อม
มิจฉาวาณิชา
มิจฉาวาณิชา
มี๓อย่างคือ๑กามสังกัปป์หรือกามวิตก๒พยาบาทสังกัปป์หรือพยาบาทวิตก๓วิหิงสาสังกัปป์หรือวิหิงสาวิตก
สัมมาสังกัปปะ
มิจฉาสังกัปปะ
มุทิตาหมายถึงความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีคือเมื่อผู้อื่นได้รับความสำเร็จมีความสุขความเจริญก้าวหน้าก็พลอยชื่นชมยินดีในสิ่งที่เขาได้รับไม่มีความอิจฉาริษยาในความสำเร็จของเขาด้วยการพูดแสดงความยินดีบ้างส่งบัตรอวยพรไปแสดงความยินดีบ้างมอบของขวัญมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีบ้างเป็นต้น
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มุทิตา
มุทิตา
มุทิตา
มุทิตา
นางวิสาขาพระนางมัลลิกาลูกเศรษฐีณพาราณาสี
มุทิตาเป็นคุณธรรมของผู้ใหญ่และเป็นหลักที่ผู้ใหญ่พึงประพฤติเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะกำจัดความไม่ยินดีความขึ้งเคียดความอิจฉาริษยาลงได้
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มุทิตา
มุทิตา
มุทิตาแปลว่าความยินดีความเป็นผู้มีความยินดี
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มุทิตา
มุทิตา
มูควัตรแปลว่าการปฏิบัติอย่างเป็นใบ้กล่าวคือการงดเปล่งวาจาซึ่งพุทธศาสนาถือว่าเป็นเดียรถียสมาทานหรือข้อวัตรสำหรับนักบวชนอกพุทธศาสนา
มูควัตร
มูควัตร
มโนแปลว่าใจความคิดอยู่ในกลุ่มคำที่มีความหมายคล้ายกันคือจิตมนัสเป็นอายตนะภายในอย่างสุดท้ายใน๖อย่างคือตาหูจมูกลิ้นกายใจปกติใช้นำหน้าคำอื่นๆที่แสดงถึงความเกี่ยวเนื่องกับใจเช่นมโนกรรมการกระทำทางใจมโนทวารทวารคือใจมโนทุจริตการประพฤติชั่วด้วยใจมโนสุจริตการประพฤติชอบด้วยใจมโนวิญญาณความรู้ทางใจมโนสัมผัสสัมผัสทางใจมโนรมเป็นที่ชอบใจ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโน
มโน
มโนกรรมหมายถึงการกระทำทางใจคือทำกรรมด้วยการคิดไม่ว่าจะทำกรรมชั่วหรือกรรมดีจัดเป็นมโนกรรมเหมือนกัน
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนกรรม
มโนกรรม
มโนกรรมทางชั่วมี๓อย่างคือโลภอยากได้ของเขาพยาบาทปองร้ายเขาเห็นผิดจากคลองธรรมเรียกอีกอย่างว่ามโนทุจริตที่แปลว่าประพฤติชั่วด้วยใจมโนกรรมทางดีมี๓อย่างคือไม่โลภอยากได้ของเขาไม่พยาบาทปองร้ายเขาเห็นชอบตามคลองธรรมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามโนสุจริตที่แปลว่าประพฤติชอบด้วยใจค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนกรรม
มโนกรรม
มโนทุจริตมี๓อย่างคืออภิชฌาคือเพ่งเล็งอยากได้จ้องที่จะเอาสิ่งของของผู้อื่นพยาบาทคือขัดเคืองคิดปองร้ายผู้อื่นมิจฉาทิฐิคือเห็นผิดจากคลองธรรมเห็นไม่ตรงตามจริง
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนทุจริต
มโนทุจริต
มโนทุจริตแปลว่าการประพฤติชั่วทางใจการประพฤติชั่วด้วยใจ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนทุจริต
มโนทุจริต
มโนวิญญาณความรู้อารมณ์ทางใจคือรู้ธรรมารมณ์ด้วยใจหรือการนึกคิดมโนวิญญาณ
มโนสุจริตมี๓อย่างคืออนภิชฌาอพยาบาทและสัมมาทิฐิค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนสุจริต
มโนสุจริต
มโนสุจริตแปลว่าการประพฤติดีทางใจการประพฤติดีด้วยใจมโนสุจริต
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนสุจริต
มโนสุจริต
ลักษณะของผู้มีมุทิตาคือเป็นคนไม่ริษยายอมรับในความดีและความสำเร็จของคนอื่นแสดงความชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นได้ด้วยความเต็มใจ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มุทิตา
มุทิตา
มุทิตา
หมายถึงการเกิดของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ซึ่งเป็นการเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีครั้งสุดท้ายก่อนที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติต่อมามหาชาติที่ได้ชื่อเช่นนี้ก็เพราะการเกิดครั้งสุดท้ายนี้พระเวสสันดรได้บำเพ็ญบารมีสำคัญคือทานบารมีซึ่งเป็นการทำให้บารมีอื่นสมบูรณ์ไปด้วยเปรียบเหมือนการประทับตราในหนังสือสำคัญทำให้เกิดความสมบูรณ์ใช้บังคับตามกฎหมายได้และในชาติสุดท้ายนี้พระเวสสันดรได้บำเพ็ญบารมีอื่นๆครบทั้งสิบประการจึงถือได้ว่าเป็นการเกิดครั้งสำคัญยิ่งใหญ่กว่าทุกชาติที่ผ่านมามหาชาติได้รับการประพันธ์เป็นบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองแล้วนำไปเทศน์เป็นทำนองมาตั้งแต่สมัยโบราณเรียกการเทศน์เช่นนี้ว่าเทศน์มหาชาติเรียกเต็มว่าเทศน์มหาชาติเรื่องเวสสันดรชาดก
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มหาชาติ
มหาชาติ
หมายถึงพระบาลีที่เป็นหัวข้อเป็นแม่บทเรียกว่าบทมาติกาเรียกการที่พระสงฆ์สวดพระบาลีเฉพาะหัวข้อธรรมในพระอภิธรรมปิฎกซึ่งขึ้นต้นด้วยบทว่ากุสลาธัมมาอกุสลาธัมมาในงานที่เกี่ยวกับศพว่าสวดมาติกาและมาติกาคำนี้ในงานเผาศพจะใช้คู่กับคำว่าบังสุกุลเป็นมาติกาบังสุกุลกล่าวคือพระสงฆ์จะสวดมาติกาก่อนแล้วบังสุกุลต่อกันไปเช่นที่เขียนในบัตรเชิญงานศพว่า๑๔๐๐นพระสงฆ์มาติกาบังสุกุล
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มาติกา
มาติกา
อาชีพที่พระพุทธองค์ทรงตรัสห้ามไว้ไม่ให้ประกอบน่ะค่ะมิจฉาอาชีวะ
มิจฉาอาชีวะ
มิจฉาอาชีวะ
พระพุทธเจ้าตรัสห้าม
เป็นการกระทำความดีความงามทางใจคือด้วยการคิดจัดเป็นบุญก่อความสุขให้ทั้งในปัจจุบันและภพชาติต่อไป
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘มโนสุจริต
มโนสุจริต
เป็นเรื่องสมัยหลังพุทธกาล๕๐๐ปีมีกษัตริย์ชาวกรีกนามว่าเมร์นันเดอร์หรือนามบาลีว่ามหาราชมิลินท์ได้ยกทัพมาที่แคว้นสาคละแห่งนี้และสามารถยึดครองเมืองได้และด้วยทิฐิมานะของพระเจ้ามิลินท์ว่าตนเชี่ยวชาญศาสนาและคัมภีร์จึงให้ทหารนำตัวนักบวชลัทธิต่างรวมถึงพระสงฆ์มาตอบคำถามธรรมของพระเจ้ามิลินท์แต่ถ้านักบวชท่านนั้นตอบไม่ได้ก็จะถูกจับประหารเหล่าพระสงฆ์พรามหณ์โยคีต่างพากันหนีตายไปแคว้นอื่นเมืองอื่นแต่มีพระภิกษุหนุ่มนามว่านาคเสนอยู่ที่เมืองคนเดียวพระเจ้ามิลินท์จึงให้ทหารนำตัวพระนาคเสนมาแต่พระนาคเสนสามารถปราบทิฐิมานะในตัวของพระเจ้ามิลินท์ได้และพระเจ้ามิลินท์ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ
สาคละ
สาคละ
เพื่อขายเพื่อฆ่าหรือเปล่าคะอยากทำฟาร์ม
สัตว์
ภาวนา
เลี้ยงไม่ใช่เพื่อฆ่า
ที่ว่าอยากเลี้ยงสัตว์นี่ไม่ได้เอาไปแกงใช่ไหม
สถานะสงสัย
เมตตาเป็นหนึ่งในพรหมวิหารธรรมในพระพุทธศาสนาหรือพรหมวิหารสี่ซึ่งประกอบไปด้วยเมตตากรุณามุทิตาและอุเบกขาโดยเป็นปัจจัยให้เกิดพรหมวิหารอื่นได้ในวิสุทธิมรรคสมาธินิทเทสพรหมวิหารนิเทสแสดงลักษณะของเมตตาพรหมวิหารไว้ว่าเมตตามีอาการประพฤติเกื้อกูลเป็นลักษณะมีการน้อมนำเข้าไปเกื้อกูลประโยชน์ในสัตว์เป็นรสมีการบำบัดความอาฆาตเป็นปัจจุปัฏฐานหรืออาการที่ปรากฏมีการเห็นสัตว์เป็นที่ชอบใจคือไม่โกรธเคืองไม่ขุ่นเคืองในขณะนั้นเป็นปทัฏฐานหรือเหตุใกล้มีการเข้าไปสงบความพยาบาทเป็นสมบัติมีความเสน่หาเป็นวิบัติตามอัฏสาลินีอรรถกถาพระธัมมสังคณีปกรณ์ทุกนิกเขปกถาเหตุโคจฉกะพระบาลีนิทเทอโทสะได้แสดงลักษณะของเมตตาไว้ว่าเมตตามีชื่อว่าไมตรีเนื่องจากเป็นกิริยาที่สนิทสนมเมตตามีชื่อว่าการเอ็นดูเพราะคอยปกป้องคุมครองเมตตามีชื่อว่าความแสวงหาผลประโยชน์เกื้อกูลเมตตามีชื่อว่าความสงสารเนื่องจากคอยหวั่นไหวตามไปด้วยดังนั้นการจะแสดงว่ามีเมตตาต่อบุคคลใดจึงต้องมีลักษณะดังกล่าวซึ่งหากว่าไม่ใช่อาการเหล่านี้จิตขณะนั้นอาจเป็นโลภะหรือโทสะซึ่งเป็นอกุศลจิตไม่ใช่เมตตา
เมตตา
เมตตา
เมตตา
เมตตา
หนึ่งในพรหมวิหารธรรม
โมจตุกะได้แก่โมหะอหิริกะอโนตตัปปะและอุทธัจจะ
โมหะ
โมจตุกะ
๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ