ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ
๑บริโภคน้ำอาหารมิให้อิ่มไปหิวไปถ่ายท้องแปรงฟันอาบน้ำเช็ดตัวให้เรียบร้อยเตรียมร่างกายให้สะอาดนุ่งชุดที่ไม่คับตัวผ้าเบาๆสบายๆ๒หามุมสงบไม่เสียงดังไม่อึกทึกไม่มีการรบกวนจากภายนอกได้ง่ายมีอุณหภูมิพอดีๆที่นั่งที่รู้สึกสบายกับเช่นอายุมากเข่าไม่ดีอาจนั่งบนเก้าอี้ก็ได้๓นั่งขาขวาทับขาซ้ายมือขวาทับมือซ้ายหรือวางมือตามสะดวกที่อื่นๆจะเป็นที่หน้าตักก็ได้บนเข่าก็ได้ถ้าบนเข่าอาจหงายหรือคว่ำมือก็ได้๔หลับตาเบาๆให้ขนตาชนกันแต่อย่าเม้มตา๕ขยับท่าทางให้รู้สึกว่าสบายสังเกตตัวเองว่ามีการเกร็งไหมถ้ามีขยับผ่อนคลายความรู้สึกไม่ให้เกร็ง๖ทำใจให้โล่งโปร่งเบาสบายปล่อยวางสิ่งต่างๆในใจละปริโพธหรือความกังวลต่างๆชั่วคราวอาจตั้งกำหนดเวลาในใจว่าจะอุทิศให้เวลาระหว่างนี้แก่การภาวนาทำใจให้มีความสุขเพราะแค่คนอยากมีความสุขจิตคนก็จะมีความสุขทันทีทำใจให้สนุกกับการปฏิบัติธรรม๗เมื่อสบายดีแล้วให้ภาวนาในใจจะใช้ความรู้สึกจับกับลมหายใจหายใจเข้าสั้นก็รู้หายใจออกสั้นก็รู้หายใจเข้ายาวก็รู้หายใจออกยาวก็รู้โดยไม่ต้องใช้คำบริกรรมก็ได้จะใช้คำบริกรรมว่าว่าพุทเมื่อหายใจออกให้กำหนดว่าโธก็ได้หรือจะใช้คำบริกรรมอื่นๆเช่นนับ๑๒๓ไปเรื่อยๆเมื่อหายใจเข้าออกครั้งหนึ่งหรือนะมะพะธะก็ได้เช่นกันซึ่งวิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการของโบราณจารย์เค้านะคะ๘ในระหว่างการปฏิบัติธรรมอาจจะมีเรื่องฟุ้งซ่านเข้ามาเป็นระยะอย่าสนใจถ้าจิตวอกแวกจนสนใจเรื่องอื่นเมื่อได้สติให้เริ่มภาวนาใหม่๙อาจรู้สึกเมื่อยคันปวดให้อดทนถ้าทนไม่ไหวให้เปลี่ยนอิริยาบถแก้เช่นเกาที่คันแต่ให้ทำอย่างมีสติเช่นภาวนาว่าเมื่อยหนอๆคันหนอๆเกาหนดๆซึ่งถ้าจะลุกมาเดินจงกรมจนกว่าจะหายเวทนาก็ได้๑๐เมื่อใจเริ่มสงบดีแล้วจิตกำลังผ่านขณิกสมาธิกำลังย่างเข้าอุปจารสมาธิอาจจะมีความรู้สึกแปลกๆมีอาการต่างๆกันไปตามสภาวะจิตของแต่ละคนเช่นตัวหมุนตัวเบาสั่นขนลุกและอื่นๆก็ให้วางเฉยไปตั้งใจภาวนาเรื่อยๆ๑๑เมื่อจิตเป็นสมาธิมากขึ้นคำภาวนาจะหายไปให้กำหนดสภาวะที่รับรู้ได้เด่นชัดในจิตแล้วให้จิตไปจับไว้แทนเช่นลมหายใจ๑๒เมื่อจิตมีสมาธิกล้าขึ้นจิตจะนิ่งสงบเหมือนผิวน้ำที่ไร้คลื่นจิตจะกำหนดอะไรเป็นองค์ภาวนาไม่ได้ชั่วคราวคนอาจจะตกใจว่าไม่มีอะไรให้กำหนดได้อาจหลุดจากสมาธิให้พิจารณาว่าสภาวะที่กำหนดอะไรมิได้เป็นธรรมชาติคือเป็นความจริงให้กำหนดความจริงนี้แทน๑๓เมื่อทรงอารมณ์ไว้ได้อุคคหนิมิตจะเกิดขึ้นเหมือนน้ำนิ่งจะเห็นก้นสระจิตจะเห็นภาพสัญญาที่เก็บในภวังคจิตหรือจิตใต้สำนึกคืออารมณ์ภาวนาที่กำหนดไว้ชัดขึ้นในจิต๑๔เมื่อใจนิ่งได้ระดับนึงจะเริ่มเห็นความสว่างจากภายในเป็นการเห็นด้วยใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอันให้เกิดความเชื่อทางพุทธศาสนาต่างๆเช่นเห็นสิ่งลี้ลับกายทิพย์ต่างๆหรือมีภาพให้เห็นเป็นเรื่องราวต่างๆเช่นในอดีตหรือชาติที่แล้วมาหรือเหตุการณ์ในอนาคตให้ทำใจเฉยๆอย่างเดียวหากมีข้อสงสัยหรือมีคำถามมีสิ่งผิดปกติอะไรก็ช่างก็ให้บอกตัวเองว่าคิดไปเองเพราะคนไม่อาจทราบได้ว่านิมิตรนั้นจริงเท็จเพียงใดจงอย่าสนในให้ทำสมาธิต่อไปเพราะแม้จะจริงก็จะทำให้ล้าช้าถ้าไม่จริงอาจทำคนเป็นมิจฉาทิฏฐิหรืออาจเสียสติได้ถ้าคุมจิตมิได้ก็ให้แผ่เมตตาแก่เจ้ากรรมนายเวร๑๕เมื่อจิตเข้าสู่อัปปนาสมาธิจะเห็นปฏิภาคนิมิตรแต่ถ้ากำหนดอานาปานสติและวิปัสสนาจะเห็นขันธ์๕เกิดดับขึ้นให้ระวังวิปัสสนูปกิเลสถ้าผ่านไปได้ก็จะทำลายวิปลาสต่างๆและบรรลุฌานถ้าเน้นสมถหรือญานถ้าเน้นวิปัสสนาตามลำดับค่ะ
สมาธิ_(ศาสนาพุทธ)
๑หลับตาเบาเบาเอาให้ผนังตาปิดแค่ร้อยล่ะ๙๐นะคะ๒อย่าบังคับใจเพียงตั้งสติวางใจเบาเบาณศูนย์กลางกายกำหนดนิมิตเป็นดวงแก้วใสใสเบาเบาหรือองค์พระใสใสเบาเบาหรือลมหายใจเข้า~ออก~เบาเบาหรืออาการท้องพองยุบเบาเบาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง๓กำหนดนิมิตนึกนิมิตอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นกุศโลบายล่อใจให้เข้ามาตั้งมั่นในตัว๔เมื่อใจเข้ามาหยุดนิ่งในตัวการกำหนดนิมิตก็จะหยุดไปเองค่ะ๕รับรู้การเปลี่ยนแปลงภายในกายและจิตใจด้วยความสงบ
สมาธิการฝึกสมาธิเบื้องต้น
๑น้อมใจมาเก็บไว้ณศูนย์กลางกายแต่ละครั้งเก็บใจไว้ให้นานที่สุดจนกระทั่งกลายเป็นนิสัยมีใจตั้งมั่นภายใน๒มีสติกำกับใจตลอดเวลาทำให้ระลึกรู้ตัวอยู่เสมอไม่ยินดียินร้ายในเวลาเห็นรูปฟังเสียงดมกลิ่นลิ้มรสสัมผัสรู้ธรรมารมณ์ใดใดอย่างพวกในคำสรรเสริญเยินยอยศศักดิ์ชื่อเสียงโน่นนี่นั่น
๓ตั้งใจฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลาเป็นประจำ
สมาธิการฝึกสมาธิเบื้องต้น
สมาธิ
สมาธิ
นั่งสมาธิ
ต้องสบายต้องผ่อนคลาย
การจะเข้าถึงธรรมกายภายในได้ต้องสบายค่ะจะโลกียทรัพย์หรืออริยทรัพย์จะทรัพย์ภายนอกทรัพย์ภายในเหมือนๆกันแหละค่ะคือต้องสบายใจพอใจสบายเดี๋ยวก็จะชัดขึ้นมาค่ะ
ตะวันธรรม
การทำสมาธิสายธรรมกาย
การทำสมาธิสายธรรมกาย
ธรรมกาย
ใจต้องสบาย
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
การทำสมาธิตามหลักของพระพุทธศาสนาพระพุทธองค์ได้แสดงพระธรรมเทศนาไว้ถึง๔๐วิธีทุกวิธีล้วนเป็นไปเพื่อจุดหมายเดียวคือการทำให้จิตใจสงบแต่ที่วิธีการมีเยอะนั้นในทางพุทธศาสนาเรียกว่าสมถกรรมฐานเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นฐานนิสัยของแต่ละคนโดยพระพุทธองค์ทรงแบ่งพื้นฐานนิสัยไว้๖ประเภทเรียกว่าจริต๖อาทิเช่นคนที่มีราคะจริตคือหลงใหลในของสวยงามง่ายควรพิจารณาความไม่งามหรืออสุภะความไม่เที่ยงความไม่แน่นอนในสังขารต่างๆหรืออนิจจังเพื่อให้ใจไม่ติดในราคะได้ง่ายจะได้ทำสมาธิได้ง่ายเพราะเมื่อหลับตาทำสมาธิแล้วใจคนชอบอะไรคุ้นอะไรก็จะมีภาพนั้นปรากฏขึ้นมาในใจน่ะค่ะ
สมาธิ_(ศาสนาพุทธ)
สมาธิ
สมาธิ
สมาธิ
การปฏิบัติธรรมจะทำให้เข้าใจการเกิดแก่เจ็บตายมีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างของของในโลกก็จะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นทุกข์ทั้งนั้นไม่ว่าคนสัตว์สิ่งของก็จะไม่ยินดีมีความสุขในสิ่งเหล่านั้นค่ะ
การปฏิบัติธรรม
ปฏิบัติธรรม
การปฏิบัติธรรม
ทุกอย่างเป็นทุกข์
การฝึกสมาธิเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าผู้ฝึกหรือผู้ปฏิบัติย่อมต้องการที่จะฝึกหรือปฏิบัติในแนวทางที่ถูกต้องซึ่งนอกจากจะฝึกหรือปฏิบัติได้ถูกต้องแล้วจำเป็นจะต้องทราบว่าวัตถุประสงค์ของการฝึกหรือปฏิบัติเพื่ออะไรทั้งนี้การฝึกสมาธิในแนวทางที่ถูกต้องในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าสัมมาสมาธิและสัมมาสมาธินั้นโดยความหมายทั่วไปหมายถึงการตั้งจิตมั่นชอบซึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึงสัมมาสมาธิไว้หลายแห่งโดยได้อธิบายความหมายตลอดจนลักษณะของสัมมาสมาธิไว้หลายแห่งดังนี้ภิกษุในธรรมวินัยนี้สงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรมเข้าถึงปฐมฌานมีวิตกวิจารมีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่เธอเข้าถึงทุติยฌานมีความผ่องใสแห่งจิตในภายในเป็นธรรมเอกผุดขึ้นเพราะวิตกวิจารสงบไปไม่มีวิตกไม่มีวิจารมีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่เธอมีอุเบกขามีสติมีสัมปชัญญะเสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไปเข้าถึงตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่าผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขามีสติอยู่เป็นสุขเธอเข้าถึงจตุตถฌานไม่มีทุกข์ไม่มีสุขเพราะละสุขและทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆได้มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่อันนี้เรียกว่าสัมมาสมาธิดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันนี้เรียกว่าทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจจากความที่ยกนำมากล่าวนี้แสดงว่าสัมมาสมาธิจะมีความสงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรมเมื่อเข้าถึงปฐมฌานจนกระทั่งถึงจตุตถฌานแล้วจะมีสภาวะที่ไม่สุขไม่ทุกข์และเป็นอุเบกขาจนมีสติบริสุทธิ์นอกจากนี้ในพระไตรปิฎกยังกล่าวถึงลักษณะของสัมมาสมาธิไว้ดังนี้๑ลักษณะของสัมมาสมาธิคือการที่จิตไม่ฟุ้งซ่าน๒สัมมาสมาธิมีความตั้งมั่นแห่งจิตโดยชอบเป็นลักษณะส่วนในพระอภิธรรมปิฎกได้กล่าวถึงลักษณะของจิตที่เป็นสัมมาสมาธิว่าสัมมาสมาธิมีในสมัยนั้นเป็นไฉน?ความตั้งอยู่แห่งจิตความดำรงอยู่แห่งจิตความมั่นอยู่แห่งจิตความไม่ส่ายไปแห่งจิตความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิตภาวะที่จิตไม่ส่ายไปความสงบสมาธินทรีย์สมาธิพละความตั้งใจชอบในสมัยนั้นอันใดนี้ชื่อว่าสัมมาสมาธิมีในสมัยนั้นจากลักษณะของสัมมาสมาธิที่กล่าวนี้ในพระไตรปิฎกยังแสดงให้เห็นว่าสัมมาสมาธิมีคุณูปการแก่ผู้ฝึกหรือผู้ปฏิบัติโดยเมื่อจิตไม่ฟุ้งซ่านและมีความตั้งมั่นแห่งจิตแล้วย่อมขจัดมิจฉาสมาธิตลอดจนกิเลสได้ดังความในพราหมณสูตรกล่าวถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้อีกตอนหนึ่งว่าสัมมาสมาธิที่บุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้วมีการกำจัดราคะเป็นที่สุดมีการกำจัดโทสะเป็นที่สุดมีการกำจัดโมหะเป็นที่สุดจากความข้างต้นแสดงให้ทราบว่าสัมมาสมาธิสามารถขจัดมิจฉาสมาธิตลอดจนกิเลสและความฟุ้งซ่านสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าสู่เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพานได้ดังความในปปัญจสูทนีอรรถกถามัชฌิมนิกายมูลปัณณาสก์กล่าวไว้ดังนี้สัมมาสมาธิเมื่อเกิดขึ้น
ย่อมละมิจฉาสมาธิกิเลสที่เป็นข้าศึกต่อสัมมาสมาธิและความฟุ้งซ่านนั้นได้กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์และย่อมตั้งมั่นสัมปยุตธรรมทั้งหลายไว้โดยชอบเพราะฉะนั้นจึงเรียกว่าสัมมาสมาธิสรุปได้ว่าการจะฝึกสมาธินั้นบุคคลจะต้องยึดหลักการฝึกแบบสัมมาสมาธิกล่าวคือฝึกเพื่อการทำให้ใจสงบระงับจากกามปราศจากอกุศลธรรมทั้งหลายและไม่ฟุ้งซ่านจนกระทั่งจิตตั้งมั่นไม่ซัดส่ายก็จะสามารถทำให้การฝึกและปฏิบัติของบุคคลนั้นถูกต้องตรงต่อพระพุทธธรรมคำสอนจนสามารถบรรลุถึงเป้าหมายคือพระนิพพานได้ทั้งนี้การที่จะจิตจะไม่ฟุ้งซ่านจิตจะต้องไม่คิดหรือตรึกในสิ่งที่จะทำให้จิตเกิดราคะโทสะโมหะซึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึงลักษณะของจิตฟุ้งซ่านว่าจะมีลักษณะที่ซัดส่ายไปข้างนอกคือซัดส่ายไปในอารมณ์คือกามคุณทำให้มีความพอใจในกามคุณ๕อย่างคือรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสซึ่งทำให้จิตระคนปนเจือไปด้วยความตรึกไปในกาม
สมาธิ_(ศาสนาพุทธ)
สัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิ
พอใจในกาม
การเวียนว่ายตายเกิดหรือก็วัฏสงสารค่ะคุ้นคุ้นไหมคะ
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ
วัฏสงสาร
การเวียนว่ายตายเกิด
ก็ชินกับการคิดนู่นคิดนี่ตลอดเวลาหน่ะสิคะพอมาหัวโล่งโล่งก็ต้องรู้สึกสบายเป็นธรรมดาแหละค่ะ
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
นั่งสมาธิ
หัวโล่ง
ก็จากงานวิจัยของฝรั่งบอกว่า
๑การเจริญสติป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าได้ค่ะ
๒การเจริญสมาธิเป็นกิจวัตรป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าได้
๓คนเป็นโรคซึมเศร้าแล้วฆ่าตัวตายเป็นเพราะร่างกายขาดสารเซโรโทนินซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันร่างกายและสารเซโรโทนินนี้สามารถสร้างกลับคืนมาได้จากการสวดมนต์หรือฟังคนอื่นสวดมนต์ด้วยจิตสงบเป็นสมาธิตั้งแต่๑๕นาทีขึ้นไป
แปลว่าถ้าครอบครัวทุกท่านพากันนั่งสวดมนต์หรือสอนกันและกันให้สวดมนต์ด้วยจิตที่สงบทุกๆวันตั้งแต่๑๕นาทีขึ้นไปจะเป็นวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันไม่ให้คนในครอบครัวฆ่าตัวตายไปโดยอัติโนมัติส่วนคนที่ฝึกเจริญสติและฝึกสมาธิเป็นประจำจนได้บรรลุจิตรวมบ่อยๆนี่หมดโอกาสฆ่าตัวตายอย่างสิ้นเชิงเพราะจิตจะยกระดับมากลายเป็นคนที่มุมานะทำงานด้วยความสุขค่ะ
การสวดมนต์ที่ว่ามีทั้งตั้งใจสวดด้วยตนเองหรือฟังคนอื่นสวดถ้าทำด้วยจิตสงบไม่มีอะไรรบกวนอย่างน้อย๑๕นาทีขึ้นไปได้ผลเท่ากันค่ะ
ปฐมพงษ์โพธิ์ประสิทธินันท์
[]วิธีป้องกันการฆ่าตัวตายภายในบ้าน[]
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
สมาธิ
จิตสงบ
ก็ถ้าเริ่มปฏิบัติแต่วันนี้ปฏิบัติทุกวันอย่างช้าที่สุดก็๗ปีค่ะ
เข้าถึงธรรม
เข้าถึงธรรม
ปฏิบัติ
๗ปี
ก็พอเริ่มทำสมาธิด้วยวิธีเจริญสติพลังจิตก็จะเกิดขึ้นและสะสมไปเรื่อยๆพลังจิตที่ว่านี้ภาษาบาลีใช้ว่าสมาธิพละพลังจิตอันเกิดจากสมาธิ
ซึ่งสามารถควบคุมนิสัยไม่ดีหยาบๆที่เคยแสดงอย่างโกรธหงุดหงิดฟุ้งซ่านระยะแรกอาจจะระงับได้ชั่วคราวแต่พอพลังจิตเพิ่มมากขึ้นความรู้สึกโกรธหงุดหงิดฟุ้งซ่านก็จะค่อยๆละลายไปเพราะจิตละเอียดขึ้นเมื่อจิตละเอียดขึ้นจิตก็มีสติมากขึ้นขณะเดียวกันพลังจิตก็เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
ก่อนจะตรัสรู้พระพุทธเจ้าก็ใช้วิธีฝึกสมาธิด้วยวิธีสตินี่แหละค่ะถ้าฝึกสมาธิด้วยวิธีเจริญสติไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อศีลและปัญญาได้รับการพัฒนาเสริมตามเพราะนิสัยไม่ดีต่างๆถูกพลังจิตรีดออกไปหมดแล้วโดยนัยนี้ถ้าต้องการสร้างคนเป็นคนดีโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยต่างๆจึงควรมีหลักสูตรเจริญสติโรงเรียนช่างกลต่างๆที่ยกพวกตีกันบ่อยๆถ้ามีหลักสูตรเจริญสติอย่างเข้มๆนิสัยไม่ดีก็ละลายไปได้เร็วค่ะ
การเจริญสติจึงควรส่งเสริมในสังคมไทยทุกๆระดับชั้นพร้อมๆกับที่รัฐบาลส่งเสริมเทคโนโลยี๕จีเพราะการเล่นโซเชียลมิเดียบ่อยๆมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าทำให้สมาธิเสียค่ะพลอยทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเสียไปด้วยสิคะ
อาจารย์ปฐมพงษ์โพธิ์ประสิทธินันท์
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
นั่งสมาธิ
สมาธิพละ
ก็เพราะอยากนี่แหละค่ะก็เลยเข้าไม่ถึงซักที
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ
เข้าถึงธรรม
อยาก
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
ก็เพราะว่าคนยังอยากมีอยากได้อยากเป็นอยากโน่นอยากนี่อยากนั่นอยากอยากอยากอยากอยาก!!!และอยากค่ะ
[]เราจะรักษาสมาธิให้ดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรครับ?[]
หยุดคือตัวสำเร็จ
ความคิด
คิด
อยากอยากอยาก
ก็เพราะว่าธรรมชาติของใจเป็นของบอบบางจะไปใช้วิธีรุนแรงไม่ได้นะคะต้องใช้วิธีละมุนคือต้องค่อยๆวางใจต้องเบาๆสบายๆใจจึงจะนิ่งได้ค่ะ
ตะวันธรรม
การทำสมาธิสายธรรมกาย
การทำสมาธิสายธรรมกาย
ใจนิ่ง
ต้องวางใจเบาเบา
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
ก็ไม่เชิงหรอกนะคะ
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ
นั่งสมาธิ
ไม่เชิงช่วยได้ทุกเรื่อง
ของอย่างนี้อยู่ที่ทำในชาติก่อนก่อนด้วยหน่ะค่ะ
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
นั่งสมาธิ
ชาติที่แล้ว
คือเอาเข้าจริงเห็นนู่นนี่เป็นผลพลอยได้แหละค่ะและในเมื่อจุดหมายสุดท้ายของทุกคนอยู่ที่นิพพานก็ไม่จำเป็นต้องเห็นนู่นเห็นนี่ก็ได้นี่คะแต่ถ้าจุดหมายอยู่ที่ตาทิพย์หูทิพย์ไรงี้ก็อีกเรื่องนึงค่ะ
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ
ใจหยุด
เห็นนู่นนี่
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
ต้องใจเย็นเย็นอดทนรอด้วยการทำนิ่งนิ่งเฉยเฉยเดี๋ยความสุขก็จะมาเองค่ะ
ตะวันธรรม
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ
ทำนิ่ง
ความสุขมาเอง
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
ถ้าอย่างนั้นก็หลับไปก่อนแต่อย่านอนนะคะให้หลับในท่านั่งนั่นแหละค่ะตื่นมาเบาๆโล่งๆก็ปฏิบัติต่อเลยเผื่อฟลุ๊กๆเป็นแบบพระอานนท์ขึ้นมาจะสนุกสนานกันใหญ่ค่ะ
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
สมาธิ
พระอานนท์
ถ้าไม่สบายแสดงว่าไม่ใช่ล่ะหล่ะค่ะต้องปรับใหม่นะคะอย่าไปฝืนเอาหัวชนกำแพงอยู่อย่างนั้นนะคะ
ตะวันธรรม
การทำสมาธิสายธรรมกาย
การทำสมาธิสายธรรมกาย
ธรรมกาย
ไม่สบายต้องปรับ
คุณรู้จักวิชชาธรรมกายได้อย่างไรเหรอคะ
พลังใจก็ใจที่มีพลังหรือจะง่ายง่ายก็กำลังใจแต่ถ้าลึกซึ้งก็ถึงขั้นดับดาวได้เลยนะคะ
พลังใจ
พลังใจ
พลังใจ
ดับดาว
ลองทำตาปรือปรือเหลือกตาขึ้นนิดนิดเก็บคางหน่อยหน่อยดูสิคะ
การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ
นั่งสมาธิ
ตาปรือเหลือกตาเก็บคาง
สมถกรรมฐานคือกรรมฐานเป็นอุบายสงบใจได้แก่การปฏิบัติธรรมด้วยการบริกรรมเป็นการบำเพ็ญเพียรทางจิตโดยใช้สมาธิเป็นหลักไม่เกี่ยวกับการใช้ปัญญาและมุ่งให้จิตสงบระงับจากนิวรณ์ซึ่งเป็นตัวขัดขวางจิตไม่ให้บรรลุความดีเป็นสำคัญด้วยเป็นอุบายวิธีที่หยุดความฟุ้งซ่านแห่งจิตซึ่งมักจะฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆกล่าวคือหยุดความคิดของจิตไว้โดยใช้สมาธิยึดดึงอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งในกรรมฐาน๔๐กองมาบริกรรมจนกระทั่งจิตแนบแน่นในอารมณ์นั้นและสงบระงับไม่ฟุ้งซ่านต่อไปเพื่อมุ่งบริหารจิตเป็นหลักคู่กับวิปัสสนากรรมฐานที่มุ่งการอบรมปัญญาเป็นหลักค่ะ
พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดีสุรเตโช)ปธ๙ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด,วัดราชโอรสารามกรุงเทพฯพศ๒๕๔๘
สมถกรรมฐาน
สมถกรรมฐาน
สมถกรรมฐาน
กรรมฐาน
สมถะเป็นภาษาบาลีแปลว่าสงบค่ะ
สมถะ
สมถะ
สมถะ
สมถะ
๒๓ ความรู้ก่อนหน้า |๒๓ ความรู้ต่อไป
ก | ข | ค | ง | จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ | อ | ฮ | ก ถึง ฮ